เวลาความคุ้มครอง
โดยเริ่มคุ้มครอง ณ เวลาที่แจ้งทำประกัน และสิ้นสุดเวลา 16.30 น. ของวันหมดอายุ
- ถ้าไม่แจ้งเวลากรมธรรม์จะเริ่มคุ้มครองเวลา 00.01 น.
การประกันรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.)
ข้อกำหนดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 บังคับว่า
พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 บังคับว่า
- รถทุกคันที่มีไว้เพื่อใช้ หรือ วิ่งในทาง ต้องมีประกันอุบัติเหตุอย่างน้อย คือ พ.ร.บ.
- คุ้มครอง คน ทุกคน ที่ประสบภัยจากรถ จะชดเชยให้ในส่วน ชีวิต ร่างกาย และการบาดเจ็บ
- ไม่คุ้มครอง ทรัพย์สินใดๆ ทั้งสิ้น
รถที่ไม่ต้องจัดให้มีการทำประกันภัยผู้ประสบภัยจากรถ
- รถสำหรับเฉพาะพระองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี ฯลฯ
- รถของสำนักพระราชวังที่จดทะเบียนและมีเครื่องหมายตามระเบียบที่เลขาธิการพระราชวังกำหนด
- รถของกระทรวง ทบวง กรม เทศบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด สุขาภิบาล
- รถอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
ผู้มีหน้าที่ต้องจัดให้มีการประกันภัยตาม พรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
- เจ้าของผู้มีกรรมสิทธิ์
- ผู้ครอบครองตามสัญญาเช่าซื้อ
- ผู้นำรถที่จดทะเบียนในต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว
"รถ" ที่ต้องจัดให้มีการประกันภัยตาม พรบ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
- รถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์
- รถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก
- รถยนต์ทหารตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ทหาร
การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ
ผู้ที่ได้รับความคุ้มครอง
- ผู้ประสบภัย อันได้แก่ ประชาชนทุกคนที่ประสบภัยจากรถ ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร คนเดินเท้า หากได้รับความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย อนามัย อันเนื่องมาจากอุบัติเหตุที่เกิดจากรถ ก็จะได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. นี้
- ทายาทของผู้ประสบภัยข้างต้น กรณีผู้ประสบภัยเสียชีวิต
จำนวนเงินค่าเสียหายเบื้องต้น
บริษัทต้องชดใช้ภายใน 7 วัน นับแต่่วันที่บริษัทได้รับการร้องขอ (เอกสารครบ) โดยไม่ต้องรอการพิสูจน์ความรับผิด
- ค่าปลงศพ 35,000 บาท/คน
รวมกันแล้ว สูงสุด ไม่เกิน 50,000 บาท/คน
บริษัทต้องชดใช้ภายใน 7 วัน นับแต่่วันที่บริษัทได้รับการร้องขอ (เอกสารครบ) โดยไม่ต้องรอการพิสูจน์ความรับผิด
- กรณีบาดเจ็บ (ค่ารักษาจ่ายตามจริงไม่เกิน) 15,000 บาท/คน
- กรณีเสียชีวิตทันที (ค่าปลงศพ) 35,000 บาท/คน
- กรณีบาดเจ็บ แล้วเสียชีวิต
- ค่าปลงศพ 35,000 บาท/คน
รวมกันแล้ว สูงสุด ไม่เกิน 50,000 บาท/คน
จำนวนเงินคุ้มครองสูงสุดตาม พ.ร.บ.
- เป็นใบ้/ เสียความสามารถในการพูด หรือลิ้นขาด
- สูญเสียอวัยวะสืบพันธุ์
- สูญเสียแขน ขา มือ เท้า นิ้ว หรืออวัยวะอื่นใด
- จิตพิการอย่างติดตัว - ทุพพลภาพถาวร
- บาดเจ็บ ค่ารักษาพยาบาล (ตามจริงไม่เกิน) 50,000 บาท/คน
- สูญเสียอวัยวะ/พิการ สูงสุด 200,000 บาท /คน
- เป็นใบ้/ เสียความสามารถในการพูด หรือลิ้นขาด
- สูญเสียอวัยวะสืบพันธุ์
- สูญเสียแขน ขา มือ เท้า นิ้ว หรืออวัยวะอื่นใด
- จิตพิการอย่างติดตัว - ทุพพลภาพถาวร
- เสียชีวิต สูงสุด 200,000 บาท/คน
- เงินชดเชยรายวัน (รักษาตัวเป็นคนไข้ใน) 200 บาท/วัน ไม่เกิน 20 วัน
กรณีที่ผู้ขับขี่รถที่เอาประกันเป็นฝ่ายประมาท หรือ ไม่มีผู้ใดต้องรับผิด ผู้ขับขี่จะได้รับการชดใช้ไม่เกินค่าเสียหายเบื้องต้น เท่านั้น
ความคุ้มครอง
- หูหนวก - สูญเสียอวัยวะสืบพันธุ์
- จิตพิการอย่างติดต่อ - ทุพพลภาพถาวร
- เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้ว หรืออวัยวะอื่นใด
- เป็นใบ้ หรือเสียความสามารถในการพูด หรือลิ้นขาด
กรณีผู้ประสบภัยได้รับบาดเจ็บ แล้วเสียชีวิตหรืออวัยวะ จะคุ้มครองสูงสุด 200,000 บาท/คน รวมทั้งชดเชยรายได้วันละ 200 บาท สูงสุด/20 วัน
- กรณีผู้ประสบภัยได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่ถึงกับสูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพจ่ายตามความเสียหายที่แท้จริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท/คน
- กรณีต่อไปนี้ จะได้รับจำนวนเงินคุ้มครองสูงสุด 200,000 บาท/คน
- หูหนวก - สูญเสียอวัยวะสืบพันธุ์
- จิตพิการอย่างติดต่อ - ทุพพลภาพถาวร
- เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้ว หรืออวัยวะอื่นใด
- เป็นใบ้ หรือเสียความสามารถในการพูด หรือลิ้นขาด
กรณีผู้ประสบภัยได้รับบาดเจ็บ แล้วเสียชีวิตหรืออวัยวะ จะคุ้มครองสูงสุด 200,000 บาท/คน รวมทั้งชดเชยรายได้วันละ 200 บาท สูงสุด/20 วัน
*ค่าเสียหายเบื้องต้น
- บริษัทต้องจ่ายภายในเวลา 7 วัน
- ค่ารักษาพยาบาลจ่ายให้ ตามจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท
- ค่าปลงศพจ่ายให้ 35,000 บาท
- เกิดอุบัติเหตุจ่ายค่ารักษาไป 10,000 บาท เบิกบริษัทได้ 10,000 บาท
- เกิดอุบัติเหตุเข้ารักษาตัวแล้วเกิดเสียชีวิต มีค่ารักษาพยาบาท 20,000 บาท เบิกบริษัทได้ 50,000 บาท
การยืนขอรับค่าเสียหายเบื้องต้นจากกองทุนทดแทนฯ
- ไม่ทราบว่ารถคันใดก่อให้เกิดความเสียหาย หรือชนแล้วหนี
- อุบัติเหตุเกิดจากการที่ถูกลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ หรือถูกยักยอก และเจ้าของแจ้งความต่อเจ้าพนักงานสอบสวนไว้แล้ว
- ประสบอุบัติเหตุจากรถที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องจัดให้มีการประกันตามกฎหมาย
เงื่อนไขอื่นๆ
กรณีบริษัทประกันภัยหรือเจ้าของรถบอกเลิกกรมธรรม์ ผู้ประสบภัยจากรถ เจ้าของรถต้องดำเนินการ
ผู้ใดยื่นคำร้องขอรับ หรือแสดงหลักฐานในการขอรับค่าเสียหายเบื้องต้น อันเป็นเท็จ
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
บริษัทประกันภัยมีสิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย ตาม พรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยฯ ก่อนครอบกำหนด
ต้องแจ้งการบอกเลิกเป็นหนังสือไปยังผู้เอาประกันภัยตามภูมิลำเนาครั้งสุดท้าย ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน
ผู้เอาประกันภัยมีสิทธิยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย ตาม พรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยฯ ก่อนครบกำหนด
โดยแจ้งให้บริษัทประกันภัยทราบเป็นลายลักษณ์อักษร และมีสิทธิได้รับเบี้ยประกันภัยคืน
บริษัทประกันภัยที่ได้รับใบอนุญาตให้รับประกันภัยรถปฏิเสธไม่ยอมรับประกันภัยตาม พรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยฯ
ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 50,000 บาท ถึง 250,000 บาท
กรณีที่บริษัทประกันภัยปฏิเสธการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้น
ผู้ประสบภัยสามารถขอรับค่าเสียหายเบื้องต้นได้ที่
กรณีที่บริษัทประกันภัยได้สำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าทดแทน หรือค่าปลงศพ ไปแล้ว ต่อมาพิสุจน์ได้ว่า
บริษัทประกันภัยไม่ผิด บริษัทประกันภัยที่เป็นฝ่ายผิดต้องคืนเงินภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับการร้องขอ
- ส่งคืนเครื่องหมายให้แก่นายทะเบียน หรือ
- ทำให้เครื่องหมายใช้การต่อไปไม่ได้
ผู้ใดยื่นคำร้องขอรับ หรือแสดงหลักฐานในการขอรับค่าเสียหายเบื้องต้น อันเป็นเท็จ
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
บริษัทประกันภัยมีสิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย ตาม พรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยฯ ก่อนครอบกำหนด
ต้องแจ้งการบอกเลิกเป็นหนังสือไปยังผู้เอาประกันภัยตามภูมิลำเนาครั้งสุดท้าย ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน
ผู้เอาประกันภัยมีสิทธิยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย ตาม พรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยฯ ก่อนครบกำหนด
โดยแจ้งให้บริษัทประกันภัยทราบเป็นลายลักษณ์อักษร และมีสิทธิได้รับเบี้ยประกันภัยคืน
บริษัทประกันภัยที่ได้รับใบอนุญาตให้รับประกันภัยรถปฏิเสธไม่ยอมรับประกันภัยตาม พรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยฯ
ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 50,000 บาท ถึง 250,000 บาท
กรณีที่บริษัทประกันภัยปฏิเสธการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้น
ผู้ประสบภัยสามารถขอรับค่าเสียหายเบื้องต้นได้ที่
- สำนักงานกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยเขต
- สำนักงานกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยจังหวัด
กรณีที่บริษัทประกันภัยได้สำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าทดแทน หรือค่าปลงศพ ไปแล้ว ต่อมาพิสุจน์ได้ว่า
บริษัทประกันภัยไม่ผิด บริษัทประกันภัยที่เป็นฝ่ายผิดต้องคืนเงินภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับการร้องขอ
การประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ
ความคุ้มครอง
-ค่ารักษาพยาบาล สำหรับผู้ขับขี่/ผู้โดยสารในรถประกัน
- การประกันตัวผู้ขับขี่
ในการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ
- ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- ความเสียหายต่อรถยนต์คันที่เอาประกันภัย
- ความคุ้มครองภัยเพิ่มตามเอกสารแนบท้าย (ตามที่ระบุความคุ้มครองไว้) ได้แก่
-ค่ารักษาพยาบาล สำหรับผู้ขับขี่/ผู้โดยสารในรถประกัน
- การประกันตัวผู้ขับขี่
ในการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ
- จำนวนเงินเอาประกัน (ทุนประกัน) สำหรับความคุ้มครองรถสูญหาย ไฟไหม้ และความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์จะต้องเท่ากันเสมอ
- จำนวนเงินเอาประกันขั้นต่ำ (วงเงินคุ้มครอง) สำหรับความคุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอกคือ 200,000 บาท/ครั้ง
- จำนวนเงินเอาประกันภัยขั้นต่ำ (วงเงินคุ้มครอง) สำหรับความคุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก คือ ส่วนเกินวงเงินสูงสุดตาม พรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ 1,000,000 บาท/ คน หรือ 10,000,000 บาท/ครั้ง
การประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ (VOLUNTARY MOTOR INSURANCE)
การประกันภัยรถยนต์ประเภท 1
การประกันภัยรถยนต์ประเภท 1
- ให้ความคุ้มครอง ชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินบุคคลภายนอก ความเสียหายต่อรถยนต์ รวมถึงการสูญหาย,ไฟไหม้,ความคุ้มครองภัยเพิ่มตามเอกสารแนบท้าย (ตามที่ระบุไว้)
- ให้ความคุ้มครอง ชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินบุคคลภายนอก การสูญหาย,ไฟไหม้,ความคุ้มครองภัยเพิ่มตามเอกสารแนบท้าย (ตามที่ระบุไว้)
- ให้ความคุ้มครอง ชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินบุคคลภายนอก ความคุ้มครองภัยเพิ่มตามเอกสารแนบท้าย (ตามที่ระบุไว้)
- ให้ความคุ้มครองเฉพาะความรับผิดต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก
- ให้ความคุ้มครองตามประเภท 2 และคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ประกัน ซึ่งเกิดอุบัติเหตุจากการชนกับยานพาหนะทางบก
- ให้ความคุ้มครองตามประเภท 3 และคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ประกัน ซึ่งเกิดอุบัติเหตุจากการชนกับยานพาหนะทางบก
ข้อยกเว้น
- สงครามกลางเมือง การกบฏ การปฏิวัติ การต่อต้านรัฐบาล การยึดอำนาจการปกครองโดยกำลังทหาร
- วัตถุอาวุธปรมาณู
- การแตกตัวของประจุ การแผ่รังสีฯ
2. ข้อยกเว้นทั่วไปของความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
การกำหนดจำนวนเงินเอาประกันภัย (ทุนประกัน)
ในการรับประกันภัยความเสียหายต่อตัวรถยนต์ ไม่ควรรับประกันภัยในจำนวนเงินจำกัดความรับผิดต่ำกว่า ร้อยละ 80 ของราคารถยนต์ในการเริ่มเอาประกันภัย เว้นแต่รถยนต์ที่ไม่มีการเสียภาษีขาเข้า
การโอนรถยนต์
เมื่อผู้เอาประกันได้โอนรถยนต์ให้แก่ผู้อื่น ให้ถือว่าผู้รับโอนเป็นผู้เอาประกันตามกรมธรรม์ประกันภัย
แต่ในกรณีที่ทำประกันภัยประเภทระบุชื่อผู้ขับขี่ ถ้าผู้เอาประกันไม่แจ้งการเปลี่ยนแปลงให้บริษัทประกันทราบ ผู้เอาประกันอาจจะต้องรับผิดชอบในความเสียหายส่วนแรกเอง (6,000 บาทของความเสียหายต่อรถยนต์ประกัน และ 2,000 บาทของความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก)
- ข้อยกเว้นทั่วไปของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์
- สงครามกลางเมือง การกบฏ การปฏิวัติ การต่อต้านรัฐบาล การยึดอำนาจการปกครองโดยกำลังทหาร
- วัตถุอาวุธปรมาณู
- การแตกตัวของประจุ การแผ่รังสีฯ
2. ข้อยกเว้นทั่วไปของความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
- การใช้รถยนต์นอกอาณาจักรเขตคุ้มครอง
- การใช้รถยนต์ในทางผิดกฎหมาย
- การใช้ในการแข่งขันความเร็ว
- การใช้ลากจูงหรือผลักดัน เว้นแต่รถที่ถูกลากจูงได้ทำประกันกับบริษัทด้วย
- ความรับผิดซึ่งเกิดจากสัญญาที่ผู้ขับขี่ทำขึ้น ซึ่งถ้าไม่มีสัญญานั้นแล้ว ความรับผิดจะไม่เกิดขึ้น
- บุคคลที่ขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดไม่น้อยกว่า 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
- การเสื่อมราคา หรือการสึกหรอของรถยนต์
- การแตกหักของเครื่องจักรกลไกของรถยนต์ หรือการเสียหรือการหยุดเดินของกลไก อันมิได้เกิดจากอุบัติเหตุ
- ความเสียหายโดยตรงต่อรถยนต์ อันเกิดจากการบรรทุกน้ำหนัก หรือจำนวนผู้โดยสารเกินกว่าที่ได้รับอนุญาต
- ความเสียหายต่อยางรถยนต์ อันเกิดจากการฉีกขาด หรือการระเบิด เว้นแต่มีความเสียหายเกิดขึ้นกับส่วนอื่นของรถยนต์ในเวลาเดียวกัน
- ความเสียหายอันเกิดจากการขาดการใช้รถยนต์ เว้นแต่เกิดจากการที่บริษัท ประวิงการซ่อม โดยไม่มีเหตุอันควร
- ทรัพย์สินที่ผู้เอาประกัน ผู้ขับขี่ที่เป็นฝ่ายต้องรับผิดคู่สมรส บิดา มารดา บุตรของผู้เอาประกันหรือผู้ขับขี่
- เครื่องชั่ง สะพานรถ สะพานรถไฟ ถนน ทางวิ่ง ทางเดิน หรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่อยู่ใต้สิ่งดังกล่าว อันเกิดจากการสั่นสะเทือน หรือจากน้ำหนักรถยนต์
- ทรัพย์สินที่บรรทุกอยู่ใน หรือกำลังยกขึ้น หรือกำลังยกลงจากรถยนต์
- ทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายจากการรั่วไหลของสารเคมี หรือวัตถุอันตรายที่บรรทุกอยู่ในรถ เว้นแต่การรั่วไหลเกิดจากอุบัติเหตุของรถยนต์
- การใช้รถยนต์นอกอาณาเขตที่คุ้มครอง (สามารถขยายความคุ้มครองได้ แต่ต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยเพิ่มเดือนละ 5% แต่รวมแล้วไม่เกิน 20% ของเบี้ยประกันภัยเต็มปี)
- การใช้รถยนต์ไปในทางที่ผิดกฎหมาย
- การใช้ในการแข่งขันความเร็ว
การกำหนดจำนวนเงินเอาประกันภัย (ทุนประกัน)
ในการรับประกันภัยความเสียหายต่อตัวรถยนต์ ไม่ควรรับประกันภัยในจำนวนเงินจำกัดความรับผิดต่ำกว่า ร้อยละ 80 ของราคารถยนต์ในการเริ่มเอาประกันภัย เว้นแต่รถยนต์ที่ไม่มีการเสียภาษีขาเข้า
การโอนรถยนต์
เมื่อผู้เอาประกันได้โอนรถยนต์ให้แก่ผู้อื่น ให้ถือว่าผู้รับโอนเป็นผู้เอาประกันตามกรมธรรม์ประกันภัย
แต่ในกรณีที่ทำประกันภัยประเภทระบุชื่อผู้ขับขี่ ถ้าผู้เอาประกันไม่แจ้งการเปลี่ยนแปลงให้บริษัทประกันทราบ ผู้เอาประกันอาจจะต้องรับผิดชอบในความเสียหายส่วนแรกเอง (6,000 บาทของความเสียหายต่อรถยนต์ประกัน และ 2,000 บาทของความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก)
ค่าเบี้ยประกันภัย
- อัตราเบี้ยประกันภัยต้องได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียน
- อัตราเบี้ยประกันภัย นายทะเบียนได้กำหนดให้เป็นอัตราเบี้ยประกันภัยพิสัย (Range Rate) หมายถึงการกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัยต่ำสุด และสูงสุด
- ปัจจัยที่ใช้กำหนดอัตราเบี้ยประกัน
- เบี้ยประกันภัยพื้นฐาน
- อัตราเบี้ยประกันภัยเพิ่มตามความเสี่ยง (ของรถประกัน)
- ขนาดรถยนต์
- อายุผู้ขับขี่
- อายุรถ
- ทุนประกัน
- อัตราเบี้ยประกันเพิ่มความคุ้มครองของบุคคลภายนอก
- บจ.
- ทส.
- อัตราเบี้ยประกันภัยเพิ่มตามเอกสารแนบท้าย
- อุบัติเหตุส่วนบุคคล (เสียชีวิต/ทุพพลภาพ) ผู้ขับขี่, ผู้โดยสารในรถประกัน
- ค่ารักษาพยาบาล ผู้ขับขี่ ,ผู้โดยสารในรถประกัน
- การประกันตัวผู้ขับขี่
ส่วนลดต่างๆ ในการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ
(เงื่อนไขอาจขึ้นอยู่ว่าแต่ละบริษัทประกันภัยกำหนด)
ส่วนลดอายุผู้ขับขี่
กรณีผู้ขับขี่ที่กำหนดไว้เป็น 4 ช่วง
กรณีผู้ขับขี่ที่กำหนดไว้เป็น 4 ช่วง
- อายุตั้งแต่ 18 - 24 ปี ( ลด5%)
- อายุตั้งแต่ 25 - 35 ปี ( ลด 10%)
- อายุตั้งแต่ 36 - 50 ปี (ลด 15%)
- อายุตั้งแต่ 50 ปี ขึ้นไป (ลด 20%)
ส่วนลดหมู่
ผู้เอาประกันภัยที่มีรถยนต์ตั้งแต่ 3 คัน ขึ้นไป สามารถเลือกรับส่วนลดหมู่ได้ ซึ่งบริษัทจะให้ส่วนลดหมู่ 10% จากอัตราเบี้ยประกันภัยสุทธิและได้ส่วนลดประวัติดีเป็นรายคันด้วย
ผู้เอาประกันภัยที่มีรถยนต์ตั้งแต่ 3 คัน ขึ้นไป สามารถเลือกรับส่วนลดหมู่ได้ ซึ่งบริษัทจะให้ส่วนลดหมู่ 10% จากอัตราเบี้ยประกันภัยสุทธิและได้ส่วนลดประวัติดีเป็นรายคันด้วย
ส่วนลดเบี้ยประกันภัยประวัติดี (เงื่อนไขอาจขึ้นอยู่ว่าแต่ละบริษัทประกันภัยกำหนด)
30% ของเบี้ยประกันในปีที่ต่ออายุ สำหรับรถยนต์ คันที่ไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหาย 2 ปีติดต่อกัน
40% ของเบี้ยประกันในปีที่ต่ออายุ สำหรับรถยนต์ คันที่ไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหาย 3 ปีติดต่อกัน
50% ของเบี้ยประกันในปีที่ต่ออายุ สำหรับรถยนต์ คันที่ไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหาย 4 ปีติดต่อกัน
- กรณีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ผู้เอาประกันภัยเป็นผู้ประมาท ผู้เอาประกันภัย จะไม่ได้รับส่วนลดประวัติดีในปีถัดไป และจะถูกลดส่วนลดประวัติดีลง 1 ถึง 2 ขั้น
- กรณีผู้เอาประกันภัยมีรถยนต์เอาประกันภัยไว้ น้อยกว่า 3 คัน
30% ของเบี้ยประกันในปีที่ต่ออายุ สำหรับรถยนต์ คันที่ไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหาย 2 ปีติดต่อกัน
40% ของเบี้ยประกันในปีที่ต่ออายุ สำหรับรถยนต์ คันที่ไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหาย 3 ปีติดต่อกัน
50% ของเบี้ยประกันในปีที่ต่ออายุ สำหรับรถยนต์ คันที่ไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหาย 4 ปีติดต่อกัน
ส่วนลดเบี้ยประกันภัย
การขอรับผิดชอบความเสียหายส่วนแรก (Deductible)
การขอรับผิดชอบความเสียหายส่วนแรก (Deductible)
- หากผู้เอาประกันยอมรับผิดชอบความเสียหายส่วนแรก สำหรับความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันที่เอาประกัน 5,000 บาทแรก ลด 10% ส่วนที่เกิน 5,000 บาท ลด 10% ของจำนวนเงินความเสียหายส่วนแรก
- หากผู้เอาประกันยอมรับผิดชอบความเสียหายส่วนแรก สำหรับความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคล ภายนอก 5,000 บาทแรก ลด 10% ส่วนที่เกิน 5,000 บาท ลด 1% ของจำนวนเงินความเสียหายส่วนแรก
- ลดลงหนึ่งขั้นจากเดิม หากเกิดจากความประมาทของรถยนต์คันที่เอาประกัน หรือไม่สามารถแจ้งคู่กรณีได้
- ลดลงสองขั้นจากเดิม แต่ไม่เกินอัตราปกติ หากเกิดจากความประมาทของรถยนต์คันที่เอาประกัน หรือไม่สามารถแจ้งคู่กรณีได้ ตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไป และค่าเสียหายเกิน 200% ของเบี้ยประกัน
การเพิ่มเบี้ยประกันภัยประวัติไม่ดี
กรณีที่ผู้เอาประกันภัย มีการเรียกร้องค่าเสียหายระหว่างปีที่เอาประกันภัย โดยรถยนต์คันที่เอาประกันเป็นฝ่ายประมาณ หรือไม่สามารถแจ้งให้ทราบถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้ อย่างน้อยตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไปรวมกัน และมีจำนวนเงินเกินกว่า 200% ของเบี้ยประกันภัย
ขั้นที่ 1 : 20% ของอัตราเบี้ยประกันในปีที่ต่ออายุ
ขั้นที่ 2 : 30% ของอัตราเบี้ยประกันกรณีที่เกิด 2 ปีติดต่อกัน
ขั้นที่ 3 : 40% ของอัตราเบี้ยประกันกรณีที่เกิด 3 ปีติดต่อกัน
ขั้นที่ 4 : 50% ของอัตราเบี้ยประกันกรณีที่เกิด 4 ปีติดต่อกัน
กรณีที่ผู้เอาประกันภัย มีการเรียกร้องค่าเสียหายระหว่างปีที่เอาประกันภัย โดยรถยนต์คันที่เอาประกันเป็นฝ่ายประมาณ หรือไม่สามารถแจ้งให้ทราบถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้ อย่างน้อยตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไปรวมกัน และมีจำนวนเงินเกินกว่า 200% ของเบี้ยประกันภัย
ขั้นที่ 1 : 20% ของอัตราเบี้ยประกันในปีที่ต่ออายุ
ขั้นที่ 2 : 30% ของอัตราเบี้ยประกันกรณีที่เกิด 2 ปีติดต่อกัน
ขั้นที่ 3 : 40% ของอัตราเบี้ยประกันกรณีที่เกิด 3 ปีติดต่อกัน
ขั้นที่ 4 : 50% ของอัตราเบี้ยประกันกรณีที่เกิด 4 ปีติดต่อกัน
ความเสียหายส่วนแรก
กรณีความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
กรณีความเสียหายต่อรถยนต์
- 2,000 บาทแรก ของความเสียหายต่อทรัพย์สินใน กรณีที่ใช้รถยนต์ในเวลาเกิดอุบัติเหตุ นอกเหนือจากที่ได้ระบุไว้ในตาราง
- ตามจำนวนเงินส่วนแรกของความเสียหาย ดังระบุไว้ในตาราง
- 2,000 บาทแรก ของความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอกในกรณีผู้ขับขี่มิใช่ที่ระบุชื่อ
กรณีความเสียหายต่อรถยนต์
- 1,000 บาทแรกของความเสียหายอันมิได้เกิดจากการชนหรือคว่ำ หรือเกิดจากการชน แต่ผู้เอาประกันภัยไม่สามารถแจ้งให้ทราบถึงคู่กรณีได้
- ตามจำนวนเงินส่วนแรกของความเสียหาย ดังระบุไว้ในตาราง
- 6,000 บาทแรก ของความเสียหาย ที่เกิดจากการชน การคว่ำ ในกรณีผู้ขับขี่มิใช่ที่ระบุชื่อ
การชดใช้ความเสียหาย
กรณีรถยนต์สูญหาย
บริษัทประกันภัยจะต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนเต็มจำนวนเงินเอาประกันที่ระบุไว้ในตาราง และต้องโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ให้แก่บริษัทประกันภัยทันที โดยค่าใช้จ่ายของบริษัทประกันภัย
กรณีที่บริษัทได้รถยนต์คืนมา ต้องแจ้งให้ผู้เอาประกันทราบภายใน 7 วัน และผู้เอาประกันมีสิทธิภายใน 30 วัน ที่จะ
- ขอรับรถยนต์คืน - สละสิทธิ์ไม่ขอรับคืน
การตีความกรมธรรม์ประกันภัย ให้ตีความตามคู่มือการตีความที่นายทะเบียน ได้ให้ความเห็นชอบไว้
กรณีบริษัทปฏิเสธการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ เป็นเหตุให้ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลแล้ว ผู้เสียหายสามารถเรียกดอกเบี้ยได้ในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี สำหรับรถเอาประกัน แต่ถ้าเป็นคู่กรณีสามารถเรียกดอกเบี้ยได้ในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี
กรณีรถยนต์สูญหาย
บริษัทประกันภัยจะต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนเต็มจำนวนเงินเอาประกันที่ระบุไว้ในตาราง และต้องโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ให้แก่บริษัทประกันภัยทันที โดยค่าใช้จ่ายของบริษัทประกันภัย
กรณีที่บริษัทได้รถยนต์คืนมา ต้องแจ้งให้ผู้เอาประกันทราบภายใน 7 วัน และผู้เอาประกันมีสิทธิภายใน 30 วัน ที่จะ
- ขอรับรถยนต์คืน - สละสิทธิ์ไม่ขอรับคืน
การตีความกรมธรรม์ประกันภัย ให้ตีความตามคู่มือการตีความที่นายทะเบียน ได้ให้ความเห็นชอบไว้
กรณีบริษัทปฏิเสธการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ เป็นเหตุให้ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลแล้ว ผู้เสียหายสามารถเรียกดอกเบี้ยได้ในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี สำหรับรถเอาประกัน แต่ถ้าเป็นคู่กรณีสามารถเรียกดอกเบี้ยได้ในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี
เงื่อนไขอื่นๆ
กรณีที่บริษัทประกันภัยได้สำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าทดแทน หรือค่าปลงศพ ไปแล้ว ต่อมาพิสูจน์ได้ว่า บริษัทประกันภัยไม่ผิด บริษัทประกันภัยที่เป็นฝ่ายผิดต้องคืนเงินภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับการร้องขอ
กรณีที่บริษัทประกันภัยได้สำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าทดแทน หรือค่าปลงศพ ไปแล้ว ต่อมาพิสูจน์ได้ว่า บริษัทประกันภัยไม่ผิด บริษัทประกันภัยที่เป็นฝ่ายผิดต้องคืนเงินภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับการร้องขอ
Cash Before Cover (CBC)
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2552 เป็นต้นไป กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์นำหลักเกณฑ์นี้มาบังคับใช้เป็นเงื่อนไขบังคับก่อนตามกฎหมาย โดยผู้เอาประกันภัยจะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัย ก่อนหรือตรงกับวันที่กรมธรรม์ประกันภัยเริ่มคุ้มครอง โดยแบ่งผู้เอาประกันภัยเป็น 2 ประเภทคือ
- บุคคลธรรมดา
- นิติบุคคล
- ผู้เอาประกันภัยที่เป็นบุคคลธรรมดา จะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัย ก่อนหรือตรงกับวันที่กรมธรรม์ประกันภัยเริ่มคุ้มครอง
- ผู้เอาประกันภัยที่มีสถานะเป็นนิติบุคคล เช่น บริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล มูลนิธิ สมาคม สหกรณ์ สามารถชำระเบี้ยประกันภัยได้ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่กรมธรรม์ประกันภัยมีผลบังคับ
ความรู้พื้นฐานการขายประกันวินาศภัย โดย นายกฤศ ชวนพิบุลพรรณ Tel.081-7109645